กระเจี๊ยบเขียว
เป็นพืชล้มลุกมีอายุประมาณ 1 ปี เจริญเติบโตได้ดีในเขตอากาศกึ่งร้อน คือมีอุณหภูมิระหว่าง 18-35 องศาโดยประมาณ เป็นพืชที่สามารถนำมาเป็น สมุนไพร ได้ เพราะมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยรักษาเกี่ยวกับโรคกระเพาะอาหาร
ชื่อสามัญ : Okra
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Abelmoschus esculentus Linn.
ชื่ออื่น : Lady's Finger ประเทศอินเดียเรียกว่า บินดี (Bhindi) ส่วนประเทศในแถบเมดิเตอร์เรเนียนเรียกว่า บามี (Bamies) ส่วนของประเทศไทยนั้นแบ่งแยกเป็นภาค ได้ดังนี้
ภาคกลาง : กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบมอญ มะเขือทะวาย มะเขือมอญ
ภาคเหนือ : มะเขือพม่า มะเขือขื่น มะเขือมอญ มะเขือละโว้
ถิ่นกำเนิด : กระเจี๊ยบเขียวนั้นเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบ แอฟริกาตะวันตก ประเทศซูดาน
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ลำต้น : มีขนหยาบและมีความสูงประมาณ 1-2 เมตร
ใบ : ลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว คล้ายฝ่ามือเรียงสลับกัน และมีขนหยาบ
ดอก : มีสีเหลือง ที่โคนกลีบด้านในมีสีม่วงออกแดง ออกตามซอกใบ ก้านชูเรณูรวมกันเป็นลักษณะคล้ายหลอด
ฝัก : คล้ายนิ้วมือผู้หญิง ตามฝักมีขนอ่อนๆทั่วฝัก มีสันเป็นเหลี่ยมตามยาว 5 เหลี่ยม ฝักกระเจี๊ยบมีทรงยาวสีเขียว ฝักอ่อนมีรสชาติหวานกรอบอร่อย ส่วนฝักแก่จะมีเนื้อเหนียว
แหล่งเพาะปลูก
ในประเทศไทยนั้นพื้นที่ที่มีการปลูกกระเจี๊ยบเขียวมาก ส่วนใหญ่อยู่ในภาคกลาง มีหลายจังหวัด ได้แก่ นครปฐม ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร พิจิตร กาญจนบุรี ราชบุรี ระยอง และนครนายก
สรรพคุณทางยา
กระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชที่มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะในฝักกระเจี๊ยบนั้นมีสารเมือกพวกเพ็กติน (Pectin) และกัม (Gum) ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้ลุกลาม รักษาความดันให้เป็นปกติ เป็นยาบำรุงสมอง มีสรรพคุณเป็นยาระบายและสามารถแก้โรคพยาธิตัวจี๊ดได้ด้วย แต่ต้องรับประทานติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน
ที่มา : wikipedia
ทักทายสมาชิกเพื่อสุขภาพ

- BlogMaster
- การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ เราจะมาชวนคุณให้รักสุขภาพไปกับเราด้วย เมนูสุขภาพ อาหารสุขภาพ เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สมุนไพรเพื่อสุขภาพฯ ในปัจจุบันโรคภัยต่างๆเกิดจาก อาหารการกิน สารปนเปื้อน สารตกค้างฯ หากเรารู้เท่าทันและรู้วิธีป้องกันอย่างน้อยก็ช่วยให้เราห่างไกลจากโรคเหล่านั้นมากขึ้นค่ะ...ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีค่ะ
คลิกลิ้งค์ด้านล่าง
คลิกลิ้งค์ด้านล่าง
สุขภาพดีไม่แคร์สื่อ สวย-หล่อธรรมชาติ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น